
จากแผนการปรับปรุงโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2563 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ “เลอ เมอริเดียน 2022” ด้วยคอนเซปต์ “ศิลปะแห่งการใช้ชีวิตในสไตล์ยุโรป” ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งการรีโนเวทโรงแรมทั้งหมดแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน โดยในช่วงแรกแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ขณะที่ช่วงที่ 2 นั้น เสร็จสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 4 เดือน ด้วยเงินลงทุนกว่า 232 ล้านบาท

การรีโนเวทในครั้งนี้เป็นการพลิกโฉมทุกพื้นที่ทั้งส่วนกลางภายในโรงแรม ตลอดจนห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ที่โดดเด่นด้วยรูปปั้น “ไอ้จุด” (I-Jud) รูปปั้นสุนัขสีขาวลายจุดขนาดใหญ่ พร้อมต้อนรับแขกผู้มาเยือน มอบความประทับใจแรกตั้งแต่พบเห็น รวมไปถึงร้านอาหารที่นับว่าเป็นจุดเด่นของโรงแรมเลอ เมอริเดียน เช่น

ละติจูด 13 (Latitude 13 Indoor) มีบริการของว่างในรูปแบบอะลาคาร์ทแบบท้องถิ่น และอาหารว่างแบบสากล พร้อมทั้งอาหารที่แชร์กันได้ตลอดทั้งวัน จานที่เป็นซิกเนเจอร์มีตั้งแต่ของหวานน่าลิ้มลองอย่างบอมโบโลนี (Bomboloni) ไปจนถึงอาหารคาวอย่างครอสทินี (Crostini) บาริสต้า ปรุงกาแฟแบบไนโตร โคลด์บรูว์ และคลาสสิก รวมถึงพื้นที่ใหม่สำหรับพาสุนัขมาด้วยซึ่งใกล้จะเปิดแล้ว ที่ Latitude 13 Outdoor เปิดโอกาสให้เพื่อนรักสี่ขาได้เข้าสังคมกับเพื่อนๆ ตัวอื่นๆ

โรลลิงริบส์ บริว บาร์ บาร์บีคิว (Rolling Ribs Brew Bar & BBQ) ด้วยคอนเซ็ปต์บาร์บีคิวสไตล์เมมฟิส (Memphis-style) ต้องยอมให้กับความอร่อยแบบชุ่มฉ่ำที่ Rolling Ribs Brew Bar & BBQ กับซี่โครงย่าง หมูนุ่ม เนื้อวัวส่วนอก ไก่ย่าง และอื่นๆ พร้อมเครื่องเคียงให้เลือกหลากหลาย เช่น โคลด์สลอว์ และข้าวโพดปิ้งทั้งฝัก แกล้มด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่สั่งตรงจากไวด์เวสต์

Tempo Bar บาร์ใหม่เอี่ยม และใช้พืชผักสมุนไพรท้องถิ่น เพื่อรังสรรค์ค็อกเทล

Latest Recipe ร้านอาหารนานาชาติจะเพิ่มอรรถรสให้ทุกประสบการณ์ของการรับประทานอาหารด้วยโปรโมชั่นสุดห้ามใจ 2 แบบ “La Cantine” คือแนวใหม่สไตล์บราสเซอรีของร้านอาหารแห่งนี้ ที่ผู้รับประทานอาหารสามารถเข้ามาผ่อนคลายในระหว่างวัน กับเมนูอาหารยุโรป ตั้งแต่ราวิโอลีผักโขมชิ้นยักษ์ ทอร์เทลลีล็อบสเตอร์ ไปจนถึงซุปซีฟู้ดไวน์เมอร์โลต์ เนื้อวัวตุ๋น ปลากะพงย่าง ฯลฯ เลือกชุดเมนูอาหารกลางวันได้ทุกวัน ตั้งแต่ 12:00 น. – 14:30 น. หรือตัวเลือกสำหรับเมนูอะลาคาร์ตก็มีบริการ จากนั้นในช่วงค่ำ “Creative Hour” นำเสนอโปรแกรมเครื่องดื่มฟรีโฟลว์ 120 นาที และของว่างเบาๆที่หรูหรา ระหว่าง 19:00 น.- 22:00 น. ในราคาสุดพิเศษ


ภายในห้องพักพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ ซึ่งการออกแบบคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ รวมถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น โทรศัพท์ทัชสกรีน, สมาร์ททีวีจอ LED และลำโพงเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ เติมเต็มด้วยโซฟานุ่มสบาย กระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจดเพดาน โต๊ะทำงานที่มีขนาดยาวเป็นพิเศษพร้อมด้วยช่องต่อสายไฟเหมาะสำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจ อ่างอาบน้ำที่แช่ได้ทั้งตัว และฝักบัวอาบน้ำที่แยกต่างหากเพื่อให้ความรู้สึกสงบสุขอย่างล้ำลึก และยกระดับความสะอาดและความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้นด้วยฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET จากแบรนด์ TOTO แบรนด์สุขภัณฑ์อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น สอดคล้องกับแนวทางของแบรนด์แมริออท ที่มุ่งเน้นในด้านความสะอาด พร้อมด้วยวิวน่าตื่นตาตื่นใจของเมือง มองเห็นตั้งแต่ถนนจนถึงท้องฟ้า ห้องพักที่จะคืนความสดชื่นให้เหล่านี้เป็นเสมือนเวทีเตรียมพร้อมให้กับการผจญภัยในเมืองได้เป็นอย่างเต็มที่



นอกจากนี้ SPA by Le Méridien ให้ความแตกต่างด้วยการตีความใหม่ ที่สะท้อนถึงวิถีอันลึกซึ้งของนักเดินทางระหว่างประเทศ ห้องทรีทเมนต์ 7 ห้องมีรูปทรงวงกลมเพื่อเป็นตัวแทนของเส้นเมอริเดียน (เส้นแวง) ที่มอบพลังชีวิตให้กับแบรนด์นี้ ทุกทรีทเมนต์และการบำบัดจัดขึ้นเพื่อการชำระล้างที่บริสุทธิ์ การฟื้นฟูพลังธรรมชาติ และความกลมเกลียวของร่างกายและจิตใจ ซึ่ง SPA by Le Méridien แห่งนี้ถูกจัดอันดับอยู่ในระดับท็อปตลอดกาลของ Tripadvisor ทรีทเมนต์ที่ได้รับความชื่นชอบที่สุด ได้แก่ การนวดน้ำมันแบบดิสคัฟเวอรี่ ในสไตล์ไทย-บาหลี และออนเซ็นส่วนตัว โดยได้แรงบันดาลใจจากชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา และชุมชนริมน้ำดั้งเดิมของประเทศไทย

โรงแรม เลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจที่ล้อมรอบไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และชีวิตยามราตรีของย่านสีลมเดินทางสะดวก เข้าถึงได้ง่ายด้วยสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง และรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสามย่าน เพียงไม่กี่นาที ข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 232 8888 www.lemeridienbangkoksurawong.com หรือ www.facebook.com/LeMeridienBangkok
เกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ท เลอ เมอริเดียน
ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี 1960 ที่ปารีส ในยุคของการเดินทางที่หรูหรา เลอ เมอริเดียน โรงแรมและรีสอร์ท ยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองประเพณีต่างๆ รอบโลกผ่านความรู้สึกในแบบของชาวยุโรปที่ชื่นชอบชีวิตดีๆ ด้วยโรงแรมและรีสอร์ทมากกว่า 100 แห่ง มากว่า 30 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ครอบคลุมตั้งแต่มอริเชียสจนถึงโมนาโก และตั้งแต่ซานตา มอนิกา จนถึงเสฉวน สถานที่ที่ออกแบบตามยุคกลางศตวรรษ ของเลอ เมอริเดียน ประกอบกับโปรแกรมเก๋ๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ ได้นำความแปลกใหม่สนุกๆ มาให้กับศิลปะ กาแฟ ค็อกเทล สปาร์คลิ่ง หน้าร้อน และครอบครัว และให้แรงบันดาลใจแก่นักเดินทางที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการค้นพบโลกแบบมีสไตล์