หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยเมื่อหน้าร้อนมาเยือน คือ อากาศที่ร้อนอบอ้าว เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้อาหารบูดเสียได้ง่ายขึ้น วิธีการง่ายๆ ในการทานอาหารที่ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอาหารเป็นพิษ คือ การเลือกรับประทานอาหารสดใหม่และปรุงผ่านความร้อนเกิน 100 องศาเซลเซียส นอกจากนี้การเก็บรักษาอาหารยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการคงความสดใหม่ การดูแลทำความสะอาดตู้เย็น เพื่อขจัดคราบสกปรก กลิ่นอับ และการก่อตัวของเชื้อโรค จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านควรให้ความสำคัญ
กรมวิทยาศาสตร์ระบุว่า เชื้อไวรัสบางชนิดสามารถอยู่ในที่เย็นอุณภูมิต่ำกว่า 4 องศาได้นานถึง 1 เดือน การทำความสะอาดตู้เย็นจะช่วยเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี ช่วยยืดอายุการใช้งานจากการจัดสรรพื้นที่ภายในตู้เย็น ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก อีกทั้งยังช่วยป้องกันการสิ้นเปลืองค่าไฟจากการที่ตู้เย็นต้องทำงานหนักเกินไปอีกด้วย
แอลจี (LG) พัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ตามสโลแกน “Life’s Good” ล่าสุดมีเทคนิคดีๆในการทำความสะอาดตู้เย็นให้สะอาดหมดจด ทั้งภายในและภายนอกมาฝากกัน เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีและดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้แข็งแรงและปลอดภัย เรามาเริ่มกันที่…
1.ทำความสะอาดพื้นที่ภายในตู้เย็นให้เกลี้ยงทุกซอกมุม
ก่อนเริ่มทำความสะอาดพื้นที่ภายในตู้เย็น ควรถอดสายไฟออกก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นนำอาหารที่แช่ไว้ทั้งหมดออกมา ถอดชั้นวาง ลิ้นชัก ตู้แช่ผัก และส่วนอื่นๆ ที่ถอดออกได้ นำมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน ตามด้วยการล้างน้ำเปล่า และนำไปตากหรือเช็ดให้แห้ง ก่อนนำกลับมาใส่ในตู้เย็นอีกครั้ง
สำหรับพื้นผิวภายในตู้เย็น สามารถใช้ฟองน้ำชุบเบกกิ้งโซดาที่นำไปละลายกับน้ำเปล่าเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว รวมถึงบริเวณขอบยางตู้เย็น หากพบจุดที่มีคราบสกปรกหรือเชื้อราฝังแน่น สามารถนำสำลีชุบน้ำส้มสายชู แล้วมาทาบริเวณดังกล่าวเพื่อขจัดคราบเชื้อราให้หมดไป นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดที่หลายคนอาจมองข้ามไปในขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นคือ ท่อจ่ายน้ำ (water dispenser) ในที่กดน้ำของตู้เย็น ซึ่งอาจเกิดการอุดตันของสิ่งสกปรก เมื่อไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
2.ขจัดกลิ่นอับภายในตู้เย็น
หลังจากขจัดคราบและสิ่งสกปรกต่างๆ ภายในตู้เย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ควรจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นลำดับถัดไป ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่มาจากอาหารที่แช่ค้างไว้เป็นเวลานานจนบูด กลิ่นคาวของอาหารสดหรืออาหารที่มีกลิ่นแรง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลิ่นอับภายในตู้เย็นที่เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
นอกจากการขจัดกลิ่นด้วยเบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูแล้ว ยังมีวิธีธรรมชาติอื่นๆ เช่น การใช้ถ่าน กากใบชา เมล็ดกาแฟ หรือหนังสือพิมพ์ ไปใส่ไว้ในตู้เย็น สิ่งเหล่านี้มีคุณสมบัติในการดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเลือกใช้ตู้เย็นที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในตู้เย็น ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้ในระยะยาว
3.เช็ดทำความสะอาดตู้เย็นด้านนอกเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
เมื่อทำความสะอาดพื้นที่ภายในตู้เย็นอย่างหมดจดแล้ว เราก็ไม่ควรมองข้ามการทำความสะอาดพื้นที่ภายนอกของตู้เย็นด้วย โดยเฉพาะที่จับประตูตู้เย็นซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ถูกสัมผัสบ่อยที่สุด และยังถูกใช้งานบ่อยขึ้นในยุคที่คนนิยมทำอาหารทานเองหรือสั่งอาหารมาทานที่บ้านมากขึ้น
สำหรับใครที่ใช้ผ้าหุ้มที่จับตู้เย็น ควรถอดและนำไปซักทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง การทำความสะอาดภายนอกตู้เย็น รวมถึงที่จับประตู สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาละลายน้ำหรือน้ำส้มสายชู เช่นเดียวกับการทำความสะอาดภายในตู้เย็น หรือใช้สเปรย์แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำ
4.เทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้ตู้เย็นสะอาดอยู่เสมอ
การรักษาความสะอาดและจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบอยู่เสมอจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำความสะอาดครั้งต่อไป เทคนิคง่ายๆ คือ การหมั่นเช็ดชั้นวางภายในตู้เย็น เพื่อลดโอกาสในการก่อตัวของคราบสกปรกและเชื้อแบคทีเรียฝังแน่น รวมถึงการตรวจเช็ควันหมดอายุของอาหารที่แช่อยู่ในตู้เย็นบ่อยๆ เพื่อป้องกันอาหารบูดเสียค้างอยู่ในตู้เย็น
ปัจจุบันมีนวัตกรรมตู้เย็นที่ล้ำสมัยที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาความสดใหม่ของอาหาร เช่น ตู้เย็น LG InstaView Door-in-Door ที่ผู้ใช้มองเห็นด้านในตู้เย็นได้ โดยไม่ต้องเปิดประตูและสูญเสียความเย็นโดยไม่จำเป็น ด้วยการเคาะเพียง 2 ครั้ง เทคโนโลยี Door Cooling+ ที่มีจุดปล่อยลมเย็นบนบานประตูด้านบน ช่วยสร้างความเย็นได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง และเทคโนโลยี Linear Cooling ยังควบคุมความเย็นให้คงที่และสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยชะลอการสูญเสียคุณค่าทางอาหารและเก็บรักษาอาหารไว้ได้นานยิ่งขึ้น