Thursday, 12 June 2025 - 6:27 pm
GDN-corporate-980x120
banner SENTRYSAFE
Ads_980_120
Thursday, 12 June 2025 - 6:27 pm
GDN-corporate-980x120
banner SENTRYSAFE
Ads_980_120

โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ ปักหมุดทศวรรษแห่งความสำเร็จ ในการบริหารโรงแรมครบวงจร รุก 3 บริการใหม่ ตั้งเป้าสยายปีกสู่ 10 ประเทศใน 6 ทวีป

นายเรย์ มัตสึดะ(ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนางสาวนิธิกุล สุทธิคมน์ (ที่ 2 จากขวา) รองประธานฝ่ายโครงการและปฏิบัติการโรงแรม นายยู ฮาชิโมโตะ (ขวาสุด) รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ และ นายภวัติ เพียรเพ็ญศิริวงศ์ (ซ้ายสุด) หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ การสร้างสรรค์แบรนด์และการออกแบบโรงแรม บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมจัดงานครบรอบ 10 ปีบริษัทฯ ต่อยอดทศวรรษแห่งความสำเร็จและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจรับบริหารจัดการโรงแรมในประเทศไทย พร้อมเป้าหมายระดับโลก

บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KGH บริษัทรับบริหารจัดการโรงแรมอย่างมืออาชีพที่ก่อตั้งในประเทศไทยโดยผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น ที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการที่เป็นมิตรและน่าประทับใจของคนไทย ผสานกับระบบการทำงานด้วยมาตรฐานญี่ปุ่นอย่างลงตัว ต่อยอดทศวรรษแห่งความสำเร็จจากการนำโมเดลการจัดการจากส่วนกลาง (Centralized Operation) มาเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายให้กับโรงแรมขนาดกลางภายใต้การบริหารจัดการโดย KGH ทั้ง 41 แห่ง ด้วยการเดินหน้าเปิด 3 บริการใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เจ้าของโรงแรม ช่วยสร้างผลตอบแทนและขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เล็งสยายปีกการให้บริการไปยังฟิลิปปินส์ พร้อมขับเคลื่อนสู่เป้าหมายระดับโลก ตั้งเป้าร่วมมือพันธมิตรในการบริหารโรงแรม 1,000 แห่ง ใน 10 ประเทศ จาก 6 ทวีปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาบุคลากรมืออาชีพที่มีเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจนและพัฒนาศักยภาพจนกลายเป็นมืออาชีพตัวจริง

ปรัชญาและกลยุทธ์เบื้องหลังทศวรรษแห่งความสำเร็จในธุรกิจรับบริหารโรงแรมครบวงจรของ KGH

นายเรย์ มัทสึดะ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กลยุทธ์ความสำเร็จตลอด 10 ปีของการดำเนินธุรกิจที่เข้ามาพลิกโฉมการบริหารงานโรงแรมในประเทศไทยของ KGH เป็นการนำแนวคิดการทำงานตามปรัชญาไคเซ็น (Kaizen) ของญี่ปุ่นเข้ามาใช้ โดยเน้นระบบการจัดการ ความเที่ยงตรง ความใส่ใจในรายละเอียด และการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความท้าทายต่าง ๆ ที่เจ้าของโรงแรมขนาดกลางต้องเผชิญตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจเลยทีเดียว โดยโมเดลการบริหารจัดการจากส่วนกลาง (Centralized Operation) ของ KGH ช่วยให้การบริหารมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้บุคลากรหน้างานน้อยลงและต้นทุนลดลง พร้อมทีมสนับสนุนหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพจากสำนักงานใหญ่ การสนับสนุนของทีมงานช่วยให้โรงแรมแต่ละแห่ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขายและสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่มีต้นทุนการบริหารลดลง ตัวอย่างเช่น โรงแรมขนาด 75 ห้อง ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพนักงานให้บริการที่โรงแรมเพียง 17 คน สำหรับปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ เช่น ผู้จัดการโรงแรม ต้อนรับและบริการลูกค้า แม่บ้าน และวิศวกร สำหรับงานบางตำแหน่ง เช่น เชฟ ฝ่ายบัญชี ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายไอที ฝ่ายขายและการตลาด และฝ่ายทรัพยากรบุคคล อาจไม่จำเป็นต้องประจำที่โรงแรม แต่ดำเนินงานโดยทีมสนับสนุนจากส่วนกลางหรือสำนักงานใหญ่ สำหรับโรงแรมที่มีฝ่ายงานต่าง ๆ คล้ายกันนี้ และมีห้องอาหารด้วย ก็อาจต้องมีพนักงานประจำเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว”

นอกจากนี้ KGH ยังจัดตั้ง KokoHub ศูนย์กลางระบบจัดซื้อและกระจายสินค้าจากส่วนกลาง เพื่อให้บริการแบรนด์โรงแรมในเครือ KGH ทั้งหมด การมีทีมงานมืออาชีพจากส่วนกลางและอำนาจต่อรองจากการสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้พันธมิตรได้ประโยชน์จากราคาที่ถูกลง ลดความถี่ในการจัดส่ง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้อีกด้วย

KGH กับมาตรฐานการดำเนินงานเหนือระดับและอินไซต์เชิงลึก

“บริษัทประสบความสำเร็จในระดับสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม โดยมีอัตรากำไรจากการดำเนินการของอสังหาริมทรัพย์ (Profit Margin at Property Level) ที่ 57% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของโรงแรมระดับกลาง (Industry Average) ที่ 25% – 35% ส่วน ADR (Average Daily Rate) ก็ทำได้สูงขึ้นแบบมีนัยสำคัญกว่าก่อนหน้าที่ KGH จะเข้ามาร่วมบริหาร ตัวอย่างเช่น โคโคเทล แบงค็อก เทวา ทองหล่อ ที่มีอัตราค่าห้องเฉลี่ยต่อวัน (ADR) เพิ่มขึ้น 106% จาก 694 บาท ก่อนที่ KGH จะเริ่มดำเนินการในปี 2563 เป็น 1,434 บาท ในปี 2567 ความสำเร็จเหล่านี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างมืออาชีพของเรา ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงได้ทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถปิดดีลได้ประมาณ 100 แห่งภายในปี 2569”

ทั้งนี้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ประเมินว่าธุรกิจโรงแรมและที่พักจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 จากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากทั้งจีน เอเชียใต้ ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยไปยังเมืองหลักและเมืองรอง นอกจากนี้ ยังมีการเดินทางท่องเที่ยวแบบหมู่คณะกับครอบครัวและเพื่อนกันมากขึ้น สอดคล้องกับผลการสำรวจผู้เข้าชมงานไทยเที่ยวไทยประจำปี 2567 ที่พบว่า 35% ของนักท่องเที่ยวแบบ Tribe Travel ให้ความสนใจซื้อแพ็คเกจที่พักและจองทัวร์แบบหมู่คณะ

“สำหรับประเทศไทย มีโรงแรมขนาดกลางประมาณ 5,400 แห่ง แต่ละแห่งมีห้องพัก 50-200 ห้อง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ KGH ให้ความสำคัญ โดยหวังจะนำความรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัท เข้าไปช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการเพิ่มรายได้ ด้วยการลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานบริหาร พร้อมสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและทำให้เกิดความผูกพันกับโรงแรมมากขึ้น” นายเรย์ กล่าว

เปิดตัว 3 บริการใหม่ ขับเคลื่อน “วิสัยทัศน์แห่งอนาคต” (Future Vision) เพื่อเติบโตไปด้วยกัน

ด้านนายภวัติ เพียรเพ็ญศิริวงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ การสร้างสรรค์แบรนด์และการออกแบบโรงแรม บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทบริหารจัดการโรงแรมที่มีแบรนด์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย บริการใหม่ที่จะนำเสนอ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำการตลาดและการขายได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ช่วยให้การดำเนินงานของโรงแรมในเครือแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยทั้ง 3 บริการได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์ตรงใจ มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิม ประกอบด้วย

1.บริการสนับสนุนการขายออนไลน์ โดยรับผิดชอบด้านการขายออนไลน์และการจัดการรายได้ ซึ่งรวมถึงการบริหารแพลตฟอร์มการจองที่พักและเดินทาง (OTA) ปรับอัตราค่าห้องพักผ่านระบบให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้ รวมทั้งทำรายงานวิเคราะห์คู่แข่ง

2.บริการสนับสนุนการตลาดออนไลน์ ที่ช่วยวางแผนแพ็คเกจห้องพักและโปรโมชั่นต่าง ๆ พร้อมจัดทำโฆษณาออนไลน์ บริหารเว็บไซต์ และบัญชีโซเชียลมีเดีย (Facebook และ Instagram) สามารถผนวกแพ็คเกจนี้เข้ากับบริการสนับสนุนการขายออนไลน์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสการจดจำและรับรู้แบรนด์โรงแรม กระตุ้นให้มีการจองมาทางออนไลน์ และเพิ่มอันดับของโรงแรมบนแพลตฟอร์ม OTA ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

3.บริการด้านการบริหารและให้คำปรึกษา บริการใหม่ล่าสุดที่ KGH จะมอบหมายให้ผู้จัดการทั่วไปที่ผ่านการฝึกอบรมและมีประสบการณ์ เข้าไปทำงานที่โรงแรมนั้น ๆ และดูแลการบริหารงานประจำวันของโรงแรมโดยตรง

“KGH มุ่งมั่นปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ “ว้าว” ให้กับแขกผู้มาเยือน เจ้าของกิจการ รวมทั้งพนักงาน การเปิดตัว 3 บริการใหม่นี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการในระดับโลก สะท้อนความมุ่งมั่นของเราที่พร้อมจะร่วมก้าวเดินกับเจ้าของโรงแรมสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จในการบริหารโรงแรมในเครือทั้งในประเทศไทยและระดับโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงในฐานะบริษัทรับบริหารจัดการโรงแรมมืออาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายบริหารโรงแรม 100 แห่งภายในปี 2569 และขยายเครือข่ายโรงแรมในเครือให้ได้ถึง 1,000 แห่ง ใน 10 ประเทศภายในปี 2578”  นายเรย์ กล่าวสรุป

spot_imgspot_img
spot_imgspot_img