Tuesday, 10 December 2024 - 9:29 pm
GDN-corporate-980x120
banner SENTRYSAFE
Ads_980_120
Tuesday, 10 December 2024 - 9:29 pm
GDN-corporate-980x120
banner SENTRYSAFE
Ads_980_120

สิงห์ เอสเตท ชูกลยุทธ์  RISE ABOVE รุกตลาดแนวราบด้วย 3 เซ็กเมนท์ใหม่

สิงห์ เอสเตท กางแผนทุ่มงบกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท รุกตลาดบ้านระดับลักชัวรี่เต็มรูปแบบ ผ่าน 3 เซ็กเมนท์ใหม่ ต่อยอดความสำเร็จโครงการ SANTIBURI The Residences มั่นใจโครงการที่พักอาศัยเซ็กเมนต์ระดับบน คือกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ ในอนาคต ตั้งเป้ามูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 5.2 หมื่นล้านใน 5 ปี พร้อมสร้างรายได้ต่อปีสูงกว่าหมื่นล้านในปี 2569 ชูจุดขายแนวคิดการพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อส่งมอบคุณค่าการอยู่อาศัยที่เหนือระดับและประสบการณ์ Best-in-class ภายใต้แนวคิด “RISE ABOVE” ของสิงห์ เอสเตท เรสซิเดนซ์

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาและลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย กล่าวว่า “ด้วยเทรนด์ในปัจจุบันที่คนอยู่บ้านนานขึ้น มองหาบ้านที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ บ้านจึงต้องให้ความสุขได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญต้องตอบโจทย์ฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังต้องเป็นที่สังสรรค์ และที่ทำงานแบบ Work from home ได้ด้วย สิงห์ เอสเตทจึงได้นำแนวคิดนี้มาออกแบบโครงการที่พักอาศัยแนวราบ และเพื่อต่อยอดจากความสำเร็จที่สามารถปิดการขายโครงการบ้านสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคของตลาดระดับบน

“โดยสิงห์ เอสเตท ตอกย้ำจุดยืนในการสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้ทุกชีวิต หรือ Enriching Life ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ใส่ใจ และมุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้เป็น Best In Class เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยคุณภาพในระดับสากล ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม”

นายณัฐวุฒิ เผยถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่า “พร้อมเดินหน้ารุกตลาดบ้านแนวราบเต็มตัวในปี 2565 นี้ โดย Singha Estate Residential เป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้กับลูกค้า ซึ่งกลยุทธ์ในการพัฒนาของเราคือ “RISE ABOVE” ที่เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าให้เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกๆ segment ที่เราพัฒนา โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก โดยมีรายละเอียดของแนวคิดทั้ง 3 ส่วน ประกอบด้วย

ABOVE THE NUMBER ที่นอกเหนือจากแผนการลงทุน และการพัฒนาโครงการเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันแล้ว ยังโฟกัสการตั้งเป้าตัวเลขที่ท้าทายขึ้นอีกด้วย สืบเนื่องจากเทรนด์ของโครงการอสังหาฯ แนวราบได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากตัวเลขที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ สิงห์ เอสเตท จึงได้วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการบ้านแนวราบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วง 5 ปีต่อจากนี้บริษัทฯ มีแผนสร้างโครงการรวมมูลค่า 52,000 ล้านบาท วางสัดส่วนบ้านแนวราบต่อคอนโดมิเนียมที่ไว้ 75% ต่อ 25% เน้นทำเลศักยภาพ ประกอบด้วยโครงการตั้งแต่ระดับ 10 – 100 ล้านบาท ใน 3 เซ็กเมนท์  ซึ่งพร้อมเปิดตัวภายในปีนี้ 1 โครงการมูลค่า 2,900 ล้าน และจะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 3,000 – 14,000 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจที่พักอาศัยจะสร้างรายได้รวมต่อปีสูงกว่า 10,000 ล้านบาท ในปี 2569

ABOVE THE DESIGN & SERVICE ด้วยการออกแบบที่สอดรับกับ New Trend of Living ที่บ้านถูกออกแบบให้มีพื้นที่รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน พื้นที่ใช้สอยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่สำหรับทุกๆคนในครอบครัว ด้วยแนวคิด Smart Living, Healthy Living, Sustainable Living และ Exclusive Services

ABOVE THE LIVING EXPERIENCE กับ Privileges ต่างๆ ภายใต้ ‘S life’ที่รวบรวมสิทธิประโยชน์จากบริษัทในเครือและ Partners ที่ตอบรับกับ Lifestyle ของลูกบ้านทุกคน ทั้งในส่วนของ

-S Hotels & Resorts กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำต่างๆ ในเครือ สิงห์ เอสเตท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

-Activities กิจกรรมสันทนาการ อาทิ กอลฟ์ กิจกรรมนั่งบอลลูนเพื่อชมทิวทัศน์ แคมปิ้ง

-Food & Beverage สิทธิพิเศษที่ร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในเครือ

-Entertainment คอนเสิร์ต และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ที่น่าสนใจที่จัดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)

“จากทั้งหมดนี้ จึงเรียกได้ว่าบ้านแบบสิงห์ เอสเตท จะมีตัวตนที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องการออกแบบ ก่อสร้าง และบริการ นอกจากนี้ยังเป็นบ้านที่มีระบบ Maintenance Alert ที่บ้านสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อถึงเวลาบำรุงรักษา ป้องกันความเสียหายของระบบต่างๆ กล่าวคือบ้านที่ถูกออกแบบมาให้สวยงามอยู่คู่กาลเวลา และใช้งานได้อย่างดี พร้อมยังใช้นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น ระบบประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีที่ดูแลคุณภาพอากาศในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ผู้อยู่อาศัยจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสะดวกสบาย มีเวลาดูแลครอบครัว และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า และได้มีความสุขกับคนที่รักอย่างแท้จริง ด้วยแนวคิด RISE ABOVE” นายณัฐวุฒิ กล่าว

สำหรับปีนี้ เราจะได้เห็นการเปิดตัวโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส (Siraninn Residences) มูลค่ารวม 2,900 ล้าน ในเดือนกันยายน โดยโครงการตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยสำหรับโครงการแนวราบเขตเมือง ที่พรีเมียมสุดๆ สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังโซนธุรกิจสำคัญได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะไปยังสุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย หรือเชื่อมต่อไปโซนเศรษฐกิจหลักบนถนนพระราม 9 ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว คาแรกเตอร์ของโครงการจะเป็น Horizontal Luxury House ในรูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้นท่ามกลางสังคมคุณภาพ โดยนำเสนอแบบเอ็กซ์คลูซีฟจำกัดจำนวนเพียง 32 หลังเท่านั้น ส่วนอีก 2 เซ็กเมนท์ใหม่ จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมชื่อแบรนด์ในปี 2023 นายณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

spot_imgspot_img
spot_imgspot_img