บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ภายใต้แนวคิด GRACE โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ผศ.ดร. เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและที่ปรึกษาแบรนด์ Thailand Privilege ให้เกียรติร่วมงาน ตั้งเป้าเจาะตลาดการท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่ม Luxury หวังดึงนักท่องเที่ยวระดับบนมาลงทุนและดูแลสุขภาพในประเทศไทย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทยและสร้างรายได้เข้าประเทศ พร้อมพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และดันเป้าหมายรายได้ที่ 2.38 ล้านล้านบาท ในปี 2566
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานในการตอบสนองต่อพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่มหรูหรามีระดับ (Luxury Tourists) ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มดังกล่าวถือเป็นตลาดสำคัญที่มีกำลังในการใช้จ่ายเพื่อได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่า ความหมายและแตกต่างอย่างประทับใจ ทั้งยังช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการยกระดับสินค้าและบริการด้วยการเพิ่มมูลค่าที่จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ที่จะเข้าประเทศมากขึ้นในอนาคตด้วย
“บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ในฐานะองค์กรที่มีศักยภาพและมีพันธกิจหลักในการดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่ม Luxury ของไทย จึงพร้อมจับมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนา และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ไปพร้อมกัน โดยมุ่งสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์จากการเดินทางท่องเที่ยวไทยที่ประทับใจที่สุด ได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และคนไทยที่มีมิตรไมตรี ซึมซับความสุขในการพักผ่อนผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลายตอบโจทย์ในทุกสไตล์การเดินทาง และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางกลับมาอีกครั้ง (Revisit) ”
ปี 2566 นี้ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ได้กำหนดกลยุทธ์ “GRACE” เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
G = Grace ความสง่างาม เน้นความเป็นไทย เผยแพร่เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมไทยอันดีงาม บอกเล่าประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเชิดชูคนไทยในฐานะฮีโร่คนสำคัญที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม Luxury ต้องการเดินทางมายังประเทศไทย
R = Relationship การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เป็นการสานความสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวในระยะยาว ผ่านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่บริษัทฯ จะมอบให้กับสมาชิก รวมถึงสนับสนุนการเป็นคู่คิดด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากการท่องเที่ยวทั่วไป เช่น การลงทุน และเสริมสร้างสุขภาพ
A = Assistance การดูแลช่วยเหลือทุกที่ทุกเวลา เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว เพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นมากกว่าแค่เพียงธุรกิจการให้บริการทั่วไป ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้อย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อให้การท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นเรื่องง่าย ให้ความช่วยเหลือและสามารถพึ่งพาได้อยู่ตลอดเวลา
C = Companion ความเป็นมิตรไมตรี ดูแลนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีจิต ยืดหยุ่น ใความเป็นไทยที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม มีอัธยาศัยดี และเอาใจใส่ รวมถึงการพัฒนาฐานข้อมูลสมาชิกให้มีประสิทธิภาพ รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับความต้องการของสมาชิกรายบุคคลมากยิ่งขึ้น
E = Exclusivity ความพิเศษ มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่พิเศษและดีเยี่ยม เหนือความคาดหวัง ให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยน่าประทับใจและ amazing ยิ่งกว่าเดิม
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. รักษาการแทนผู้จัดการใหญ่บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีในปี 2546 เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำเสนอสิทธิพิเศษในการเดินทางเข้าประเทศแก่นักท่องเที่ยวระดับบน โดยบริษัทฯเป็นรัฐวิสาหกิจลูกภายใต้การกำกับดูแลของ ททท. และได้มีการดำเนินงานร่วมกับหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 100 ราย ที่ให้การต้อนรับและดูแลสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 20,200 คน และพร้อมร่วมกันขับเคลื่อน Luxury Tourism ของประเทศไทยมาโดยตลอด
เพื่อเป็นการจัดระบบและส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวและองค์กรให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งต้องมีความทันสมัยและเหมาะสมกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บริษัทฯ จึงได้มีการปรับปรุงและพัฒนาแบรนด์ของไทยแลนด์ พริวิเลจ ให้นักท่องเที่ยวระดับบนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ได้รับรู้ถึงวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำระดับโลกที่มอบสิทธิพิเศษและการบริการที่ดีเยี่ยมแก่สมาชิกเพื่อการพำนักระยะยาวในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนตามหลักแนวความคิด ESG ที่ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมมือกันเสริมสร้างให้การท่องเที่ยวของไทยแข็งแรงตลอดมา และเชื่อว่ากลยุทธ์ GRACE จะช่วยยกระดับนำพาธุรกิจท่องเที่ยวไทยก้าวต่อไปได้อย่างสง่างาม ตลอดจนช่วยผลักดันเป้าหมายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2566 ให้กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562 ภายใต้สถานการณ์ท่องเที่ยวที่เอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) รายได้รวมอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท”