LPN เตรียมปักแลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านอ่อนนุช ตอกย้ำความมืออาชีพในการพัฒนาโครงการคุณภาพมากว่า 33 ปี เจาะกลุ่มลูกค้า GenY ที่ชื่นชอบความมินิมอล สร้างสรรค์คอนโดมิเนียมใหม่ในสไตล์ญี่ปุ่น “พาร์ค 168 อ่อนนุช 19” (PARK 168 Onnut 19) ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Let’s take a breath” ผ่านการออกแบบโครงการด้วยกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น ที่เน้นความอบอุ่นผ่อนคลายด้วยความเรียบโก้ของอาคาร ที่แทรกตัวอยู่ในพื้นที่สีเขียวเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีทุกวัน เพื่อต้อนรับลูกบ้านเพียง 761 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ติดถนนอ่อนนุช ในราคาเริ่มต้น 1.87 ล้านบาท พร้อมจัดงาน VIP Dayในวันที่ 26 -27 พย. นี้
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ ( LPN ) ผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพมากว่า 33 ปี เปิดเผยว่า “สำหรับแบรนด์ ‘PARK 168 Onnut 19’ เป็นหนึ่งในแบรนด์ใหม่ของ LPN ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนแนวทางการออกแบบใหม่ในการสร้างสรรค์โครงการแบบเดิมในกลุ่ม LPN เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน และต้องการพื้นที่พักผ่อนทำกิจกรรมมากขึ้น จึงให้ความสำคัญกับสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม (Wellness Real Estate) กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2,880 ตารางเมตร เพื่อรองรับการใช้งานได้จริงได้ในทุกวัน ที่สำคัญทำเลอ่อนนุชยังเป็นทำเลที่มีอัตราการขายที่ดีในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยมี Absorption rate เฉลี่ยอยู่ที่ 42% จากจำนวนอาคารชุดพักอาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในทำเลนี้จำนวนรวม 3,275 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 8,750 ล้านบาท”
จากการสำรวจของบริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ LPN พบว่ากลุ่มผู้ซื้อโครงการในย่านอ่อนนุช มีทั้งซื้อเพื่อการอยู่อาศัย และเพื่อการลงทุน โดยมีระดับราคาที่ขายดีเฉลี่ยที่ 67,000-141,000 บาทต่อตารางเมตร ขนาดพื้นที่ประมาณ 22-35 ตารางเมตร หรือ 1.5 – 3 ล้านบาทต่อหน่วย เทียบกับทำเลใกล้เคียงอย่างเอกมัย ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 280,000-350,000 บาทต่อตารางเมตร หรือทองหล่อ ที่มีราคาขายเฉลี่ยที่ 420,000 บาทต่อตารางเมตร ถือว่า ระดับราคาอาคารชุดพักอาศัยในย่านอ่อนนุชมีราคาที่ถูกกว่าถึง 40-50% โดยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง ในขณะที่ความสะดวกสบายในการเดินทางไม่ต่างกัน โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า บีทีเอส ใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็สามารถเข้าถึงย่าน CBD อย่างสุขุมวิท หรือสีลม
สำหรับการซื้อเพื่อการลงทุนทำเล “อ่อนนุช” เป็นทำเลที่มีอัตราการเช่า (Occupancy Rate) เฉลี่ยอยู่ที่ 70-80% โดยมีราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6,500-55,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง อาทิ สตูดิโอ 6,500-9,000 บาท/เดือน (ขนาด 30-40 ตร.ม.) ขนาด 1 ห้องนอน 8,000-27,000 บาท/เดือน (ขนาด 21-80 ตร.ม.) ขนาด 2 ห้องนอน 15,000-55,000 บาท/เดือน (ขนาด 45-80 ตร.ม.) บาทต่อเดือน โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (Investment Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-6% ต่อปี ทำให้ย่านอ่อนนุชยังเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และลงทุน”
“พาร์ค 168 อ่อนนุช 19” (PARK 168 Onnut 19) เป็นคอนโดมิเนียมที่ออกแบบในสไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกของ LPN โดยเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 761 ยูนิต ด้วยห้องพักแบบ 1 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 24.00 – 34.00 ตารางเมตร บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด “Let’s take a breath” เพื่อให้ทุกคนได้หยุดพักหายใจให้เต็มปอด ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม (Wellness Real Estate) ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน และต้องการพื้นที่พักผ่อนทำกิจกรรมมากขึ้น
โครงการ พาร์ค 168 อ่อนนุช 19 จึงโดดเด่นเรื่องความละเอียดอ่อน ในการใส่ใจสุขภาพที่ดี ความสงบ และการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนและธรรมชาติ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2,880 ตารางเมตร ในรูปแบบ Modern Luxury ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรียวกังของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย Lap pool ความยาวกว่า 20 เมตร ที่สร้างความรู้สึกสงบ /Therapeutic pool ที่จำลองบรรยากาศ Outdoor Onsen ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย โดยแบ่งสัดส่วนของสระเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว / Semi-Outdoor Co-working space ที่สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ /Double Terrace ที่จำลองบรรยากาศของสวนภูเขาของญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกอิสระ ลดความรู้สึกที่เกิดจากการโดนปิดล้อมด้วยกลุ่มอาคาร และยังช่วยบังมุมมองของพื้นที่จอดรถ /Focal Point Pavilion และ Sanctuary Pavilion รองรับการใช้งานเป็นกลุ่มเพื่อพักผ่อนหรือจัดกิจกรรมสังสรรค์เป็นกลุ่มได้อีกด้วย รวมถึงการออกแบบ Moon Crossing Bridge ที่ออกแบบขึ้นเพื่อเป็น Iconic ของโครงการ ที่สามารถมองเห็นได้จากรอบด้าน จนเกิดเป็นพื้นที่โอบล้อมความสุขให้รู้สึกผ่อนคลายได้ทุกเวลา ทั้งยังวางผังอาคารปิดล้อมพื้นที่ด้านใน เพื่อให้เกิดคอร์ทยาร์ทขนาดใหญ่เป็นส่วนตัว และกระจาย Facility ไปในหลายส่วนของโครงการ ได้แก่Indoor J Park Living, Outdoor J Park Living, Dry Garden, Fitness, Upper Terrace, Zen Pavilion, Swimming Pool (ระบบเกลือ), The Moon Bridge, The Tea Pavilion, Tea Garden, Sun bed Deck และจุดบริการ EV Charger
สำหรับอาคารโดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบง่ายแต่พิถีพิถันแบบญี่ปุ่น โดยใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ เน้นช่องทาง ให้ลมและแสงเข้า-ออก ทำให้เกิดการถ่ายเทอากาศ เพิ่มความเย็นสบาย ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมี Double Skin Facade ให้ความเป็นส่วนตัว อาคารดูเรียบร้อยสวยงาม และลดทอนแสงแดดและความร้อนจากภายนอกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ LPN เช่นกัน โดยทุกยูนิตมาพร้อมรูปแบบครัวแบบ Fully Fitted ที่คำนึงถึงฟังก์ชั่น การใช้งานที่สะดวก และการดีไซน์แปลนห้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ LPN เช่นกัน ที่ทำให้การอยู่อาศัยรู้สึกสบายขึ้น พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ทำให้สามารถมั่นใจในคุณภาพการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยโครงการฯ มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จในปี 2569
“ปัจจุบันคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิท – อ่อนนุช ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มีค่อนข้างน้อย ซึ่งบริษัทฯ ตั้งใจที่จะออกแบบความสุขให้คนเมืองได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่เป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น โครงการ “พาร์ค 168 อ่อนนุช 19” (PARK 168 Onnut 19) จึงเป็นโครงการที่เราตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสงบ ผ่อนคลาย และมีความเป็นส่วนตัวในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งทำเลย่านอ่อนนุชยังคงเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ และทางด่วน ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียน โรงเรียนนานาชาติ มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า และตลาดในย่านชุมชนอีกด้วย” นายโอภาส กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถรับโปรโมชั่นพิเศษ ฟรีแอร์,เตาแม่เหล็ก,เครื่องดูดควัน, เครื่องทำน้ำอุ่น, Digital Door Lock, IOT, Internet ฟรี 1 ปี ทันที เพียงจองในงาน VIP Day วันที่ 26-27 พย.นี้ ณ เซลล์ แกลเลอรี่ “พาร์ค 168 อ่อนนุช 19” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ LPN Call Center 02-689-6888 /FB: LPN Connect /LINE OA: @LPNdev
