ซื้อแล็ปท็อปทั้งทีก็ต้องอยากได้เครื่องที่ทนไม้ทนมือ งานแน่นงานยาวแค่ไหนก็ยังสู้ไปด้วยกันกับเรา ไม่รู้ว่าใครเคยลองเสิร์ชเล่นๆ บ้างว่าแต่ละแบรนด์เค้ามีขั้นตอนการผลิตหรือกระบวนการทดสอบคุณภาพแล็ปท็อปของตัวเองกันเข้มข้นหรือไม่อย่างไรบ้าง วันนี้ขอแชร์อินไซต์ของมาตรฐานหนึ่งในแล็ปท็อปแบรนด์ระดับโลกอย่างหัวเว่ยที่เราอาจคาดไม่ถึงมาก่อน ว่ากว่าจะได้แล็ปท็อปที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ทั้งในแง่ของคุณภาพและมาตรฐานความคงทน อย่างเช่นรุ่นล่าสุดของ HUAWEI MateBook D Series นั้น ต้องผ่านด่านสุดหินอะไรมาบ้าง!
1.ใส่ใจกระบวนการคัดเลือกชิ้นส่วนให้ได้มาตรฐาน
การคัดเลือกชิ้นส่วนเริ่มขึ้นตั้งแต่การเลือกพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต ทั้งนี้การที่ผู้ผลิตมีโปรไฟล์ว่าเคยทำงานให้กับแบรนด์ระดับโลกก็จะการันตีได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าส่วนประกอบของแล็ปท็อปนั้นได้มาตรฐานและเป็นสากล ผู้ผลิตที่หัวเว่ยเลือกมา ต้องมีโปรไฟล์ระดับโลก ใช้เครื่องจักรกลที่ควบคุมโดยระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิต และมีกระบวนการตรวจสอบที่คุณภาพสูง เพื่อลดข้อบกพร่องที่เกิดจากแรงงานมนุษย์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หัวเว่ยทุ่มทุนเต็มที่ในการสร้างเครื่องมือเพื่อการผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกชิ้นส่วนผลิตได้มาตรฐานที่สูงพอ และไม่เพียงแต่แล็ปท็อปรุ่นเรือธงเท่านั้น หัวเว่ยก็ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกชิ้นส่วนในแล็ปท็อปรุ่นอื่นๆ เช่นกัน
2. มองจากมุมของผู้ใช้จริง
คุณภาพและความพรีเมียมของแล็ปท็อปมักถูกตัดสินจากความรู้สึกแรกสัมผัสภายในไม่กี่อึดใจ หยิบจับแล้วรู้สึกอย่างไร รูปลักษณ์ภายนอกดูดีหรือไม่ พกพาสะดวกไหม สิ่งเหล่านี้คือโจทย์ในมุมมองของผู้ใช้จริงที่ไปเลือกซื้อแล็ปท็อปจากหน้าร้าน วัสดุที่มักนำมาผลิตแล็ปท็อปนั้นมีอยู่หลากหลายและมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันออกไป เช่น พลาสติก ซอฟต์ทัช อะลูมิเนียมอัลลอยด์ คาร์บอนไฟเบอร์ เป็นต้น แบรนด์อย่างหัวเว่ยก็ใส่ใจและลงทุนเป็นพิเศษในด้านของประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าไลน์อัปของ HUAWEI MateBook จะสืบทอดดีเอ็นเอที่โดดเด่นด้านการเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่น้ำหนักเบาแต่ทนทาน ให้ผิวสัมผัสที่ดี ดูหรูหรา ไม่ล้าสมัยแม้ใช้งานต่อเนื่องไปอีกหลายปี เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้
รู้หรือไม่: ผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกหรูหราของแล็ปท็อปหัวเว่ยนั้นเกิดขึ้นจากกระบวนการพ่นทรายขนาด 150 Grit เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบลื่นและเนียนสนิท ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ายิ่งอนุภาคของการพ่นทรายละเอียดเท่าใด พื้นผิวของวัตถุก็จะยิ่งเรียบเนียนขึ้นเท่านั้น
3. ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้น
อีกขั้นตอนที่ขาดไปไม่ได้เด็ดขาด คือ การตั้งบททดสอบสุดหินไว้เพื่อการันตีว่าฟังก์ชันต่างๆ ของแล็ปท็อปที่เลือกมาจะอยู่คู่กับเราไปนานๆ ถือเป็นการรับรองมาตรฐานให้ผู้ใช้อุ่นใจว่ากว่าจะได้มาซึ่งดีไซน์ที่เราเห็นว่าเรียบหรูดูดี แต่ละชิ้นส่วนของแล็ปท็อปล้วนได้รับการออกแบบมาให้แข็งแรงคงทน รองรับการใช้งานในระยะยาว และผ่านการทดสอบนับครั้งไม่ถ้วนก่อนออกสู่ท้องตลาด
รู้หรือไม่: พอร์ต Type-C ของ HUAWEI MateBook จะต้องถูกทดสอบด้วยการเสียบสาย 10,000 ครั้ง ขณะที่คีย์บอร์ดจะต้องถูกทดสอบ keystrokes หรือการกดแป้นพิมพ์ 5 ล้านครั้ง และบานพับของแล็ปท็อปก็จะต้องถูกทดสอบความแข็งแกร่งด้วยการเปิดหรือปิดเป็นจำนวน 25,000 ครั้ง
มาถึงวันนี้แล็ปท็อปตระกูล HUAWEI MateBook ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการทำงานข้ามดีไวซ์ผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า HUAWEI Super Device เพื่อเสริมแกร่งให้กับอีโคซิสเต็ม ยกระดับการใช้งานแบบสมาร์ทออฟฟิศให้ไร้รอยต่อยิ่งกว่าเดิม โดยรุ่นที่รองรับการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ได้เปิดตัวในประเทศไทยแล้วก็คือ HUAWEI MateBook D 15 New และ HUAWEI MateBook D 14 New แล็ปท็อปของคนเจเนอเรชั่นใหม่ที่มองหาคอมพิวเตอร์คู่ใจ ในราคาคุ้มค่า แต่มาพร้อมวัสดุหรูหรา บางเบา และช่วยสร้างสรรค์การทำงานไปอีกระดับ ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery
