บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จล่าสุด ด้วยการคว้ารางวัลบริษัทยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2566 ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรยอดเยี่ยมของประเทศไทย (Thailand Integrated Property Development) จาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรที่ปรึกษาทางธุรกิจและวิจัยระดับโลก ซึ่งประเมินบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาบริษัทที่มีความโดดเด่นในระดับสากล ทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ การสร้างผลประกอบการ การวางกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตขององค์กร การส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การประยุกต์ใช้นวัตกรรม และการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การได้รับรางวัลจากฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ที่สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนจากการขายและค่าเช่าผ่านกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร อีกทั้งยังมีความโดดเด่นด้านการดำเนินงานตามแนวทาง ESG โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ.2050 ซึ่งเป็นแนวทางที่ขับเคลื่อนให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เดินหน้าสู่องค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน”
การได้รับรางวัลผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรชั้นนำของประเทศไทยในครั้งนี้ ได้พิจารณาจากความสามารถในการบริหารและการวางแผนกลยุทธ์ที่สำคัญของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ดังต่อไปนี้
•การยกระดับการบริหารจัดการ FPT ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเงินทุน เพื่อรักษาเสถียรภาพและสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงมีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้เติบโตตามเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาฯ รายแรกของไทยที่มีธุรกิจครอบคลุมทั้งที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้สามารถรักษาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้จากการขาย และรายได้จากค่าเช่าและบริการได้อย่างต่อเนื่อง
•การขยายโอกาสในการประกอบธุรกิจ โดยพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สอดรับกับลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมด้วยโซลูชันการบริการซึ่งยืดหยุ่นและหลากหลายที่รองรับทุกความต้องการ
•การขยายฟุตปรินท์ผ่านการเข้าซื้อกิจการ บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมไปยังประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ทำให้มีรายได้มั่นคงยิ่งขึ้น
นายเมลวิน เหลียง ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย มีความโดดเด่นในการสร้างแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาที่อยู่อาศัย โรงงาน-คลังสินค้า อาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทล ควบคู่ไปกับบริการที่ยอดเยี่ยม รวมถึงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามแนวทางความยั่งยืน นอกจากนี้ FPT ยังเป็นองค์กรชั้นนำที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมกับตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างเป็นเลิศ”
ที่ผ่านมา FPT มีการดำเนินงานที่สำคัญซึ่งช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
•กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย บริษัทฯ มีกลยุทธ์ “เสริมแกร่งบนน่านน้ำเดิม เติบโตบนสมรภูมิใหม่” มุ่งหน้าพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพพร้อมด้วยนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัย โดยพัฒนาบ้าน – ทาวน์โฮมที่รองรับทุกความต้องการของตลาด และขยายตลาดไปยังกลุ่มลักชัวรี่ที่มีกำลังซื้อสูง นอกจากนั้น ยังนำแนวทางด้านความยั่งยืนมาใช้ในการพัฒนาโครงการ เช่น การใช้วัสดุก่อสร้างที่รักษ์โลก การใช้ระบบระบายอากาศแบบประหยัดพลังงาน การติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนั้น ได้นำแอปพลิเคชัน Home+ (โฮมพลัส) มาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและผู้อยู่อาศัย ทั้งการติดต่อสื่อสาร จองบ้าน สมัครสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย การตรวจบ้าน และการส่งเสริมการขาย รวมถึงมีแผนเพิ่มฟีเจอร์การแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าและบริการสำหรับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
•กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ในฐานะผู้นำการให้บริการโรงงาน – คลังสินค้าสมัยใหม่อันดับ 1 ของอาเซียน สามารถบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ 3.5 ล้าน ตร.ม. ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนามได้อย่างแข็งแกร่ง โดยใช้กลยุทธ์ “เราพร้อม – เราต่าง” มีบริการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบพร้อมใช้ (Ready-Built) แบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และล่าสุดบริษัทฯ เตรียมส่งอาคารแบบสร้างตามฟังก์ชันพร้อมใช้ (Built-to-Function) รองรับกลุ่มลูกค้าผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (3PL) ที่เชี่ยวชาญสินค้า/บริการเฉพาะทาง นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้นำระบบคลาวด์ และ AI มาเสริมการให้บริการ เช่น ระบบการดูแลความปลอดภัยที่มี AI เป็นผู้ช่วยบริหารจัดการ ระบบการตรวจสอบและควบคุมจากระยะไกล การใช้โดรนในการตรวจสอบพื้นที่และดูแลสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ส่งอาคารอุตสาหกรรมเข้ารับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม LEED และ EDGE รวมแล้วกว่า 500,000 ตร.ม.
•กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม มีอาคารสำนักงานเกรดเอใจกลางกรุงเทพฯ ภายใต้การบริหารจัดการ 5 อาคาร ได้แก่ ปาร์คเวนเชอร์, เอฟวายไอ เซ็นเตอร์, สาทรสแควร์, สามย่านมิตรทาวน์ และสีลมเอจ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดอาคารสำนักงาน บริษัทฯ ได้ออกบริการการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานรูปแบบใหม่ Core & Flex ซึ่งผู้เช่าสามารถเลือกบริการการเช่าแบบมาตรฐาน (Core) และพื้นที่สำนักงานแบบยืดหยุ่น (Flex) ได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้เช่าและผู้ใช้อาคารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าและผู้ใช้บริการ โดยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี และการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับอาคารภายใต้บริหารจัดการของบริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับประเทศและระดับโลก ได้แก่ มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม LEED ในระดับ Platinum และระดับ Gold, มาตรฐานด้านความปลอดภัย BSA Building Safety Awards ระดับ Platinum และล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการเชื่อมต่อทางดิจิทัลจาก WiredScore ในระดับ Platinum และระดับ Gold เป็นกลุ่มแรกในประเทศไทย