กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ เตรียมเดินหน้า หลังได้รับอนุมัติการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ จากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ด้วยเสียงโหวต 100% หนุนมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นแตะ 13,000 ล้านบาทตามแผน รักษาตำแหน่งรีทอิสระอันดับหนึ่ง มั่นใจผู้ถือหน่วยได้ประโยชน์รอบด้าน พร้อมคาดการณ์ปันผลต่อหน่วยสูงขึ้น
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ รีทอิสระรายแรกและรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กล่าวว่าที่มาของการจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) (PIN) ในการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ในครั้งนี้ ผู้จัดการกองทรัสต์ได้เล็งเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพจากปัจจัยสนับสนุนที่เกี่ยวเนื่องกับสิทธิประโยชน์จากมาตรการยกเว้นภาษีและปรับลดค่าธรรมเนียมจากการแปลงสภาพ จึงทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอีกครั้งกับพันธมิตรที่ดีอย่างปิ่นทอง เกิดเป็นนวัตกรรมการลงทุนครั้งแรกในประเทศไทย ที่จะมีการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ เข้ารวมกับกองทรัสต์อิสระ โดยการเข้าลงทุนของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในทรัพย์สินของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยทรัพย์สินประเภทกรรมสิทธิ์ หรือ Freehold ทั้งหมดในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1 ปิ่นทอง 2 และปิ่นทอง 3
นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) (PIN) ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาฯ ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) กล่าวเสริมในภาพรวมการดำเนินงานของ PIN ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองมีทั้งสิ้น 7 โครงการ เป็นนิคมอุตสาหกรรม 6 โครงการ และ โลจิสติกส์ปาร์คอีก 1 โครงการ บนพื้นที่รวมกว่า 7,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC
มีเป้าหมายในการดำเนินงานโดยเน้นสร้างการเติบโตของรายได้อย่างมั่นคง ต่อเนื่อง และยั่งยืน โดยที่ผ่านมาบริษัทเป็นพันธมิตรที่ดีกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ มาโดยตลอด การทำงานร่วมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ผ่านการแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ทางธุรกิจและขยายโอกาสในการร่วมงานกันในอนาคตต่อไป
นางทิพาพรรณ ภัทรวิกรม Executive Director กลุ่มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาฯ ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) กล่าวถึงภาพรวมทรัพย์สินของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ที่มีจุดเด่นทั้งความมั่นคงของผลการดำเนินงานที่ดีและเงินปันผลที่สม่ำเสมอ โดยมั่นใจว่าการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ไปรวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ โดยมีบริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ และมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นทรัสตี จะทำให้การบริหารงานในอนาคตเป็นไปอย่างราบรื่น และการควบรวมจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้ถือหน่วยทั้งด้านผลตอบแทน ความเสี่ยง และการเติบโต รวมถึงสร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประกอบการที่เป็นผู้เช่าในโครงการและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ที่ทำงานร่วมกันต่อไปได้ในระยะยาว
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT กล่าวแนะนำกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่กว่า 11,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 14 โครงการจากกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 9 ราย ถือเป็นรีทอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายของประเภททรัพย์สินสูงที่สุด โดยมีทั้งอาคารคลังสินค้า โรงงาน คลังห้องเย็น และถังเก็บสารเคมีเหลว นอกจากนี้อัตราการเช่าของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ยังอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับรีทอุตสาหกรรมด้วยกัน ตอกย้ำความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ซึ่งสะท้อนไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีและมั่นคง รวมถึงความสามารถในการจ่ายปันผลในระดับสูงที่สุดต่อเนื่องหลายปี การลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพผ่านการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ในครั้งนี้ จะทำให้กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ มีขนาดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 13,000 ล้านบาท สอดคล้องกับเป้าหมายที่จะขยายพอร์ตทรัพย์สินแตะ 2 หมื่นล้านภายในปี 2568
นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของกองทรัสต์ AIMIRT กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ ‘AIMIRT’ มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพสูงขึ้น เนื่องจากมีสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินประเภทกรรมสิทธิ์ หรือ Freehold สูงขึ้น และทรัพย์สินในพอร์ตมีการกระจายตัวที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ของทำเลที่ตั้งที่มีการกระจายตัวไปในจุดยุทธศาสตร์ EEC มากขึ้น ประเภทของทรัพย์สินและความหลากหลายของธุรกิจผู้เช่าสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการจัดหาประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์และสร้างความมั่นคงให้กับรายได้และผลประกอบการของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ได้ในระยะยาว ถือเป็นโอกาสในการขยายพอร์ตที่มีคุณภาพและเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยอีกด้วย
นายกฤชกร นนทะนาคร Head of Debt Capital Market & Investment Banking ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาการทำรายการ กล่าวว่า การลงทุนในกองรีทยังมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะรีทอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลโดดเด่นและมั่นคงกว่ารีทประเภทอื่น และกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ยังโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับรีทอุตสาหกรรมในตลาด การลงทุนเพิ่มเติมของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ในกองทุนรวมอสังหาฯ PPF ครั้งนี้ ให้ผลเชิงบวกในภาพรวมต่อทั้งผู้ถือหน่วยของกองทุนรวมอสังหาฯ PPF และผู้ถือหน่วยของกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ โดยกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ได้ประมาณการผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยสูงขึ้นจากการการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาฯ PPF เข้ารวมกับกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว