ซีคอน โชว์ผลงานปี 2565 สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กวาดยอดขายเฉียด 2,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าธุรกิจปี 2566 ชู 3 กลยุทธ์หลัก สร้างความยั่งยืน (Sustainability) ควบคู่ออฟไลน์-ออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง และสร้างโปรดักต์ใหม่ออกสู่ตลาด โดยเปิดตัวแบบบ้านใหม่เอาใจลูกค้าสไตล์มินิมอล ทุ่มงบ 200 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปแห่งใหม่ 26 ไร่ เฟสแรกมูลค่า 120 ล้านบาท ย่านลำลูกกา และผลักดันวัสดุที่มีคุณภาพ ปลอดสารก่อมะเร็ง มีการรับรองเรื่อง Carbon Footprint ประหยัดพลังงานและนวัตกรรมบ้านเย็นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าผลักดันยอดขายทะลุ 2,500 ล้านบาท
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 และกลยุทธ์ธุรกิจซีคอนในปี 2566 ว่า “ในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายเฉียด 2,000 ล้านบาท โดยเป็นตัวเลขที่สูงกว่าปี 2564 อยู่ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการไม่หยุดนิ่งในด้านพัฒนากลยุทธ์การตลาด และมองหาโอกาสใหม่ ๆ เช่น การให้การบริการ Turn Key ครบวงจร ของ SEACON ID ตลอดจนการตอกย้ำความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพและการให้บริการด้วยประสบการณ์กว่า 62 ปี โดยในปีที่ผ่านมา สัดส่วนยอดขายของซีคอนมาจากฐานลูกค้าที่มีความต้องการบ้านขนาดใหญ่ และบ้านขนาดกลางเป็นหลัก
• มากกว่า 50% เป็นบ้านขนาดใหญ่ ราคาบ้าน 8 – 50 ล้านบาทขึ้นไป มีพื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ขึ้นไป
• 35% เป็นบ้านขนาดกลาง ราคา 5 – 7.9 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 200 – 350 ตร.ม.
•15% เป็นบ้านขนาดเล็ก ราคา 2 – 4.9 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย น้อยกว่า 200 ตร.ม.
ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ความต้องการสร้างบ้านขนาดเล็กเริ่มกลับมามากขึ้น ทำให้ภาพรวมในปี 2565 ซีคอนสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะยอดเซ็นสัญญา 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา” นายมนูกล่าว
สำหรับแผนงานปี 2566 ซีคอนตั้งเป้า 2,500 ล้านบาท โดยสร้าง 3 กลยุทธ์หลักซึ่งประกอบด้วย
•กลยุทธ์ความยั่งยืน (Sustainability) ซีคอน และ SEACON ID ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่มีคุณภาพ มีการรับรองเรื่อง Carbon Footprint และนวัตกรรมสินค้าปลอดสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นการรับผิดชอบต่อลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นวัสดุภายในประเทศซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสุขภาพ ด้วยนวัตกรรมบ้านระบายอากาศ SEACON Cool & Clean System โดยการเติมออกซิเจนภายในตัวบ้านให้ได้รับอากาศเย็นสดชื่นตลอดเวลา พร้อมทั้งบริการติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับบ้านของลูกค้าเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
•กลยุทธ์การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ จะมีการพัฒนาเครื่องมือการตลาดใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อขยายฐานลูกค้าในช่องทางออนไลน์ให้สอดรับกับการบริโภคสื่อที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการคัดสรรสิทธิพิเศษต่างๆ ให้แก่ลูกค้าภายใต้โครงการ SEACON Privileges ขณะเดียวกันช่องทางออฟไลน์มาร์เก็ตติ้ง ยังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง โดยในปี 2566 นี้ซีคอนเตรียมเข้าร่วมกับ 2 งานใหญ่
-“งานรับสร้างบ้าน และวัสดุ Focus 2023” ระหว่างวันที่ 8 – 12 มีนาคม 2566 ณ อิมแพค เมืองทองธานี Hall 6
-“งานบ้านและสวน Select 2023” ระหว่างวันที่ 18 – 26 มีนาคม 2566 ณ ไบเทค บางนา
•ด้านการพัฒนาโปรดักต์ใหม่ ซีคอนเตรียมแบบบ้านใหม่ สไตล์โมเดิร์นมินิมอล (Style Modern Minimal) ซึ่งเป็นเทรนด์ยอดนิยมในปัจจุบัน โดยจะเปิดตัวพร้อมกันใน 2 งานใหญ่เดือนมีนาคมนี้
จุดเด่นของแบบบ้านใหม่ Minimal Series อยู่ที่ความเรียบง่าย ผสมผสานความทันสมัยไว้อย่างลงตัว ด้วยการลดทอนส่วนตกแต่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อโชว์ให้เห็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านได้อย่างชัดเจน เน้นโทนสีอ่อน ที่เรียบง่ายเป็นหลัก
ตัวอย่างแบบบ้านใหม่ แบบที่ 1 แบบบ้าน : Minimal 1092 ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา โดยที่ชั้นล่างเป็นลักษณะ open แปลนออกแบบฟังก์ชันให้มีความต่อเนื่อง ไม่มีผนังมากั้นขวาง อีกทั้งยังใช้บานหน้าต่างที่สูงถึงชั้นบนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ทำให้พื้นที่มีความโปร่ง สบาย สามารถสัมผัสถึงธรรมชาติรอบบ้านได้อย่างลงตัว ซึ่งแบบบ้านนี้ประกอบด้วย ห้องนอน จำนวน 4 ห้อง ห้องน้ำ 5 ห้อง จอดรถได้ 4 คัน โดยที่จอดรถแยกออกจากตัวบ้านทำให้ใช้งานตัวบ้านได้อย่างเต็มพื้นที่
แบบที่ 2 แบบบ้าน : Minimal 1256 การออกแบบภายนอกตัวบ้านคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย หน้าต่างดีไซน์ให้มีช่องเปิดขนาดใหญ่ เพื่อช่วยดึงแสงจากธรรมชาติเข้าไปยังบริเวณห้องต่าง ๆ ทำให้ตัวบ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ภายในออกแบบให้มีฟังก์ชันครบถ้วน ทั้งส่วนพักผ่อน นั่งเล่น และเตรียมอาหาร มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เปิดโล่งแบบ open แปลนเชื่อมโยงกับฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ซึ่งแบบบ้านนี้ประกอบด้วย ห้องนอน จำนวน 4 ห้องนอน ห้องน้ำ 5 ห้อง จอดรถได้ 4 คัน โดยที่จอดรถจะเชื่อมต่อกับตัวบ้าน และพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างเต็มที่
ในส่วนของ SEACON ID หลังจากเปิดตัวมาได้ 3 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดี โดยมุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ได้แก่ การสร้างบ้านตามแบบของลูกค้า การออกแบบ การตกแต่งภายใน การออกแบบ Landscape การสร้างสระว่ายน้ำ เป็นต้น ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งการออกแบบตามแบบที่ลูกค้าต้องการ และ บริการแบบ SEACON ID Turn Key
นายสุรเชษฐ์ สายนุช ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีคอน จำกัด อธิบายเสริมว่า “กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ SEACON ID ยังคงเป็นกลุ่มราคาบ้าน 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งลูกค้ามีความต้องการพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และวางใจให้เราเป็นผู้ออกแบบให้ตาม Brief ของลูกค้า ซึ่งทางทีมงานสามารถสร้างสรรค์ให้ได้ในทุกส่วนอย่างครบวงจร อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจในด้านความปลอดภัยขั้นสุด ด้วยการทำประกันภัยระหว่างก่อสร้างให้กับลูกค้าด้วย ทั้งนี้ในปี 2566 SEACON ID วางแผนในการขยายฐานลูกค้าไปในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เนื่องจากมีลูกค้าสนใจสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
จากแนวโน้มของตลาดรับสร้างบ้านที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีคอนมีแผนลงทุน 200 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปแห่งที่ 2 บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่ เฟสแรกมีมูลค่า 120 ล้านบาท บริเวณลำลูกกาคลอง 12 โดยตั้งเป้าการผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปแบบเต็มกำลังการผลิตไว้ที่ จำนวน 120,000 ชิ้นต่อปี ในระยะแรก (เฟสที่ 1) จะผลิตประมาณ 60,000 ชิ้น ต่อปี เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต โดยซีคอนเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายแรกของประเทศไทยที่มีประสบการณ์มามากกว่า 62 ปี สร้างบ้านให้ลูกค้ามาแล้วกว่า 20,000 หลัง และเรายังไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ เรายังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานของผลงาน ที่มีความทันสมัยและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายมนู กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับลูกค้าที่สนใจสร้างบ้านกับบริษัท ซีคอน จำกัด สามารถติดต่อสำนักงานขาย ศูนย์สี่พระยา ศูนย์ศรีนครินทร์ ศูนย์งามวงศ์วาน ศูนย์บางแค และศูนย์รามอินทรา หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.seacon.co.th หรือ https://www.facebook.com/Seacon.Co.Ltd หรือ Line@ : Seacon หรือโทร 1391